ลพบุรี จังหวัดที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของภาคกลาง อีกทั้งการเที่ยวลพบุรี ยังใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่นานเพียงแค่ 150 กิโลเมตรกว่า ๆ เท่านั้น ด้วยการเดินทางไปมาที่สะดวก ทำให้ลพบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือใครที่อยากไปเช้า-เย็นกลับก็สามารถทำได้ แถมยังมีที่เที่ยวต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้รับความเพลิดเพลินและเพิ่มพูนความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอีกด้วย ว่าแต่ลพบุรีมีอะไรที่น่าเที่ยวบ้างนั้น ตามเรามาดูกันได้เลย
1. ศาลพระกาฬ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ภายในประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ยืน สร้างด้วยศิลาแลง 2 องค์ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย องค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี แต่พระเศียรเดิมหายไป ภายหลังมีผู้นำพระเศียรพระพุทธรูปศิลาทรายสมัยอยุธยามาสวมต่อไว้ บริเวณโดยรอบศาลพระกาฬปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงมากมาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของทางจังหวัด และเมื่อมีคนนำอาหารและผลไม้มาแก้บนที่ศาล ลิงเหล่านั้นก็ได้เข้ามากินอาหาร ต่อมากลายเป็นความเคยชินของลิง และความคุ้นเคยของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย
2. พระปรางค์สามยอด

เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี โดดเด่นด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมปราสาทเขมรในศิลปะบายน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีลักษณะเป็นปราสาทปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ สังเกตได้ว่าปราสาทประธานจะมีความสูงมากกว่าอีก 2 องค์

ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทั้งยังมีการประดับประดาส่วนต่าง ๆ ของปราสาทด้วยปูนปั้น หลังจากที่เสร็จสิ้นการไหว้ศาลพระกาฬแล้ว ว่ากันว่า "พระปรางค์สามยอด" เป็นโบราณสถานที่ทุกคนจำเป็นต้องเดินทางมาแวะเที่ยวและเคารพสักการะกันทุกคน
3. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟลพบุรี ในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ถือได้ว่าเป็นวัดใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด โดดเด่นด้วยพระปรางค์องค์ใหญ่ตั้งเด่นเป็นประธานอยู่ตรงกึ่งกลางของพื้นที่ ก่อด้วยศิลาแลงตั้งแต่ฐานถึงหน้าบัน ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นที่งดงาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเขมร ภายในองค์ปรางค์มีจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่นรูปพระพุทธเจ้าและพระสาวกเจดีย์รายและพระปรางค์
นอกจากนี้ภายในวัดท่านสามารถชมวิหารเก้าห้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารที่มีผนังยาวโดยมีช่วงเสากั้นอยู่รวมเก้าช่วงเสา เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งได้รับอิทธิพลจากชาวต่างประเทศ มีความสวยงามและควรค่าต่อการรักษาเป็นมรดกคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดลพบุรีตราบนานเท่านาน
4. พระนารายณ์ราชนิเวศน์

ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง ชาวเมืองลพบุรีเรียกที่นี่กันจนติดปากว่า "วังนารายณ์" เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2208-2209 ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตก โดยความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้อยู่ที่สมเด็จพระนารายณ์จะทรงโปรดประทับช่วงตลอดฤดูฝน แต่ภายหลังการเสด็จสวรรคตพระนารายณ์ราชนิเวศน์ได้ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ และพระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราชนิเวศน์" มาจนถึงปัจจุบัน
5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายใน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เขตตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณ และนิทรรศการตามอาคารต่าง ๆ จำนวนทั้งสิ้น 4 อาคาร ได้แก่ "พระที่นั่งพิมานมงกุฎ" แสดงหลักฐานวัตถุโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งโบราณจังหวัดลพบุรี "พระที่นั่งจันทรพิศาล" แสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และโบราณวัตถุ "หมู่ตึกพระประเทียบ" (อาคารชีวิตไทยภาคกลาง) จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวนา "พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่" จัดแสดงหนังใหญ่เรื่องรามเกียรติ์ นับเป็นแหล่งโบราณสถานที่น่าแก่การศึกษาและค้นคว้าทางประวัติศาสตร์แก่เยาวชนและผู้ที่มีความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
6. ทุ่งทานตะวัน


7. สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง

8. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ภาพจาก BaLL LunLa / shutterstock.com
ตั้งอยู่บ้านหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม เป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากคุณประโยชน์ในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี เพราะมีจุดชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ พิพิธภัณฑ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และสันเขื่อน ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่รถไฟจอดอยู่เหนือเขื่อน ในลักษณะทางรถไฟที่คดโค้งให้ความรู้สึกเหมือนรถไฟลอยอยู่เหนือน้ำ เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยหยิบกล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกภาพความสวยงามเหล่านั้นเอาไว้ ตลอดจนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รถนำชมวิวทิวทัศน์ บ้านพักรับรอง ลานกางเต็นท์ เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
9. บ้านหลวงรับราชทูต

ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่รับรองเอกอัครราชทูตจากฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยในช่วงปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ได้เคยพำนักอยู่ที่นี่ จึงเรียกกันว่าบ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ปัจจุบันที่นี่หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างต่าง ๆ อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
10. สวนสัตว์ลพบุรี

ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง เป็นสวนสัตว์ที่อนุรักษ์โครงสร้างแบบดั้งเดิมตั้งแต่อดีตไว้เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ของชาวจังหวัดลพบุรีและใกล้เคียง ดังจะเห็นได้จากเสาไฟฟ้าสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม และท่อส่งน้ำสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองลพบุรี ภายในสวนสัตว์มีอาณาบริเวณกว้างขวางและร่มรื่น น่าจะเป็นที่ถูกใจเหล่าบรรดาคุณน้องหนูที่อยากรับชมและสำรวจชีวิตสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ เช่น กวาง ลิง เสือโคร่ง เสือดาว กระต่าย เต่า ช้าง จิงโจ้ เป็นต้น รวมถึงทางสวนสัตว์ยังได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ทั้งเวทีการแสดงความสามารถของลิงอุรังอุตัง (ซึ่งเป็นดาวเด่นแห่งสวนสัตว์ลพบุรี) การสาธิตการจับงู การขี่ม้า การให้นมแพะ เหล่านี้เป็นสีสันที่ช่วยเสริมสร้างความรู้ ความสนุก และความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. ราคาบัตรผู้ใหญ่ 30 บาท เด็กโต 20 บาท เด็กเล็ก 10 บาท (สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 036 413 551)
ใครที่กำลังเตรียมตัวเที่ยวลพบุรีครั้งหน้า ลองไปเที่ยวตามสถานที่ที่เราแนะนำให้เพื่อน ๆ คราวนี้ดูก็ได้นะคะ หรือใครที่เคยไปลพบุรีมาแล้วและไม่อยากไปแต่ที่เดิม ๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ก็ลองดูที่เที่ยวลพบุรีที่เราได้บอกไว้ดูก็ได้ไม่ว่ากัน เผื่อว่าการเที่ยวลพบุรีครั้งหน้าของเพื่อน ๆ จะได้มีสีสันและความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ยังไงก็อย่าลืมแวะไปให้ได้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น